เคบียูโพลชี้แฟนบอลเชื่อมือ "มาโน่" พาบอลไทยผงาดอาเซียนคัพ เคบียู สปอร์ต โพล โดยศูนย์สิ่งใหม่การพัฒนาทุนมนุษย์ มัธยมเกษมบัณฑิต ชี้แฟนบอลไทยโดยมากเห็นด้วย ตั้ง มาโน่ โพลกิ้ง เป็นผู้จัดการทีมกลุ่มบอลไทยคนใหม่ พร้อมยังมั่นอกมั่นใจผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวบราสิมันแล้วก็คณะทำงานจะพาทีมลูกหนังจากสยามประเทศ ไปถึงเป้าหมาย ผงาดแชมป์บอลอาเซียนคัพ หรือ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” ในสิ้นปีนี้
จากการที่ชมรมกีฬาบอลที่เมืองไทยฯได้ทำแต่งหัวหน้าแล้วก็ผู้ช่วยครูฝึกบอลกลุ่มชาติไทยภายใต้การนำของ มาโน โพลกิง พร้อมทั้ง เจด็จ มีลาภ แล้วก็หนึ่งฤทัย สระทองคำเวียน เพื่อปฏิบัติหน้าที่สำหรับการเตรียมพร้อมร่วมการแข่งขันชิงชัยบอลชิงชนะเลิศอาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020" เมื่ออาทิตย์ก่อนหน้านั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือการมีส่วนร่วมสำหรับสะท้อนมุมมองในมิติต่างๆของแฟนกีฬาลูกหนัง เคบียู สปอร์ต โพล (KBU SPORT POLL) โดยศูนย์สิ่งใหม่การพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ก็เลยสอบถามความคิดเห็นเรื่อง "ผู้ฝึกสอนช้างศึกกับการล่า แชมป์อาเชียน 2020"
ในการตรวจสอบดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นปฏิบัติงานผ่านระบบออนไลน์ระหว่างวันที่ 30 กันยายน – วันที่ 2 ตุลาคม 64 โดยกลุ่มทดลองเป็นคนที่พอใจรวมทั้ง ติดตามข่าวทางการกีฬาซึ่งแก่ตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปปริมาณ 1,103 คน แบ่งเป็นเพศผู้ 612 คน คิดเป็น ปริมาณร้อยละ 55.48 แล้วก็ผู้หญิง 491 คน คิดเป็น จำนวนร้อยละ 44.52 ซึ่งผลที่เกิดจากการวิเคราะห์ในหัวข้อต่างๆโดยภาพรวมพบว่า ความเห็นที่มีต่อการแต่งหัวหน้ารวมทั้งผู้ช่วยคนฝึกอีกทั้ง 3 ราย กลุ่มของตัวอย่างโดยมาก จำนวนร้อยละ 56.84 เห็นด้วย รองลงมา ปริมาณร้อยละ 39.38 ไม่เห็นพ้อง รวมทั้ง ปริมาณร้อยละ 3.78 ไม่ให้ความคิดเห็น
เมื่อถามหาความมั่นใจและความเชื่อมั่นที่มีต่อประสิทธิภาพของคณะทำงานผู้ฝึก โดยมาก จำนวนร้อยละ 28.44 เชื่อถือออกจะมากมาย รองลงมา ปริมาณร้อยละ 24.04 เชื่อถือมากมาย จำนวนร้อยละ 20.69 เชื่อถือปานกลาง จำนวนร้อยละ 12.67 เชื่อถือออกจะน้อย จำนวนร้อยละ 9.05 เชื่อถือน้อย รวมทั้งจำนวนร้อยละ5.11 ไม่ให้ความเห็น ส่วนความมั่นใจและความเชื่อมั่นที่มีต่อช่องทางสำหรับการครองแชมป์ ส่วนมากจำนวนร้อยละ 26.11 เชื่อถือค่อนข้างจะมากมาย รองลงมาปริมาณร้อยละ 24.71 เชื่อถือปานกลาง จำนวนร้อยละ 23.35 เชื่อถือมากมาย จำนวนร้อยละ 13.09 เชื่อถือค่อนข้างจะน้อย จำนวนร้อยละ 8.19 เชื่อถือน้อย แล้วก็ ปริมาณร้อยละ 4.55ไม่ให้ความคิดเห็น
เมื่อถามหาต้นสายปลายเหตุที่มีผลต่อการบรรลุเป้าหมาย ส่วนมาก จำนวนร้อยละ 31.66 สมรรถนะของคนฝึก รองลงมาจำนวนร้อยละ 28.95 สมรรถนะของนักกีฬา ปริมาณร้อยละ 16.48 การส่งเสริมจากชมรมกีฬาบอลฯ ปริมาณร้อยละ 14.88 การช่วยส่งเสริมจากชมรมสังกัดเดิมของนักกีฬา จำนวนร้อยละ 5.09 การผลักดันและสนับสนุนของแฟนบอล แล้วก็อื่นๆจำนวนร้อยละ 2.94
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.เมืองโคตร บุญญานุการปฏิบัติ ผู้อำนวยการศูนย์ของใหม่การพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าผลที่เกิดจากการสำรวจดังที่ได้กล่าวมาแล้วจะมองเห็นได้ว่าจากรายนามคณะทำงานผู้ฝึกที่สัมพันธ์กีฬาบอลฯประกาศออกมา กลุ่มของตัวอย่างจำนวนมากเห็นด้วย แต่ว่าถ้าหากส่องไปดูในด้านประสิทธิภาพหรือความรู้ความเข้าใจ แฟนบอลให้แต้มอยู่ในระดับค่อนข้างจะมากมาย ประมือณีที่แฟนบอลยังไม่ให้แต้มเต็มเปี่ยมหรือเชื่อถือในระดับมากมายดังนี้บางทีอาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้คณะทำงานชุดนี้ยังไม่มีช่องทางได้แสดงประสิทธิภาพหรือเข้ามารับผิดชอบต่อกลุ่มชาติชุดใหญ่ก็ว่าได้
อย่างไรก็แล้วแต่เมื่อพิจารณาถึงความเชื่อมั่นและมั่นใจแล้วก็ช่องทางสำหรับในการคว้าชัยชนะของกลุ่มช้างศึกกลุ่มทดลองต่างเชื่อถืออยู่ในระดับค่อนข้างจะมากมายเช่นเดียวกัน ที่น่าดึงดูดจังหวะและก็ต้นสายปลายเหตุที่การบรรลุเป้าหมายสำหรับการทวงความยอดเยี่ยมหรือแรงวอาเชียนกลับคืนมานั้นแฟนบอลชี้ว่าประสิทธิภาพของผู้ฝึกรวมทั้งนักกีฬาเป็นเหตุรวมทั้งส่วนประกอบที่สำคัญ แล้วก็เหนือสิ่งอื่นใดสำหรับในการตระเตรียมกลุ่มร่วมการประลองคราวนี้ถ้าหากชมรมสังกัดเดิมให้การส่งเสริมด้วยการปลดปล่อยนักฟุตบอลประสิทธิภาพร่วมกลุ่มอย่างครบถ้วนมั่นใจว่าการบรรลุเป้าหมายและก็ความสำราญที่แฟนบอลทั้งประเทศรอน่าจะไม่ไกลเกินเอื้อม